5 เคล็ดลับทำงานอย่างไรให้มีความสุข
อาจกล่าวได้ว่าพวกเราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในช่วงระหว่างวันไปกับการทำงานมากที่สุด การมีความสุขในที่ทำงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยให้เรารู้สึกสนุกไปกับงานที่ทำ ตื่นเต้นอยากทำ และ มีกำลังใจในการทำงาน รวมถึงสามารถส่งผลให้เราเป็นพลังงานดี ๆ ที่ส่งต่อให้คนอื่นในที่ทำงานได้ด้วย
หนึ่งในโมเดลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเมื่อพูดถึงความสุขก็คือ PERMA ของ Martin Seligman นักจิตวิทยาสายจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology) ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่โฟกัสไปที่การเพิ่มด้านดี ๆ ในชีวิตและลดด้านแย่ ๆ ลงให้เหลือน้อยที่สุด เพราะพลังบวกในชีวิตมีความสัมพันธ์ต่อทั้งสุขภาพกายและจิต ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ อายุขัย และมุมมองที่เรามีต่อคุณภาพชีวิตของตัวเอง
5 ปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี (Psychological Well-being) ตาม PERMA ของ Martin Seligman มีดังต่อไปนี้
- Positive Emotions
- Engagement
- Relationships
- Meaning
- Accomplishment
โดยหลักแล้ว เขาเชื่อว่า หากเราดูแล 5 ปัจจัยนี้ในชีวิตของเราได้ดี ไม่ว่าจะในด้านใด ๆ ก็ตาม ซึ่งแน่นอนรวมไปถึงด้านการทำงานด้วย เราจะมีความสุขกับชีวิตของเราและสัมผัสได้ถึงความเป็นอยู่ที่ดี บทความนี้ Potentia Thailand จะพาไปทำความรู้จักกับ PERMA พร้อมให้ Tips ในการนำโมเดลนี้ไปเพิ่มความสุขในที่ทำงานให้กับตัวเอง
1. เพิ่มอารมณ์ย่านบวก (Positive Emotions)
อารมณ์ย่านนี้คืออารมณ์กลุ่มที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข สนุกสนานเพลิดเพลินใจ และพึงพอใจ เราสามารถกระตุ้นความสุขได้ด้วยการแสดงความขอบคุณสิ่งต่าง ๆ รอบตัวของเรา เช่น ในงานที่เรากำลังทำอยู่ โอกาสที่เข้ามา เพื่อนร่วมงานที่ยิ้มให้ หรือใครก็ตามที่ให้การช่วยเหลือเราในแต่ละวัน
2. เพิ่มความมีส่วนร่วม (Engagement)
เวลาที่เราได้ทำงานที่ได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการทำให้งานมันสำเร็จ เราจะรู้สึกว่าเรามีค่า มีกำลังใจในการทำงาน และมีความสุขกับชีวิต การได้ใช้จุดแข็งของตัวเองมักจะทำให้เกิดสภาวะที่ทำให้เรารู้สึกลื่นไหลไปกับประสบการณ์หนึ่ง ๆ จนเราไม่ได้คำนึงถึงเวลาที่ผ่านเลยไป และมักทำให้ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นเวลาคุณภาพ ลองชวนคนในทีมจัดกิจกรรมเล็ก ๆ ช่วงเย็น เพื่อผลัดกันเล่าถึงความสำเร็จในที่ทำงานวันนั้นของตน หรืออาจจะเลือกเป็นช่วงจบการประชุมทุกเช้า สั้น ๆ คนละ 1 อย่างก็ได้
3. พัฒนาความสัมพันธ์ (Relationships)
ความสัมพันธ์เป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพกายใจที่ดี ความสุข และการมีชีวิตยืนยาว มันสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยให้เราจัดการความเครียดได้ดีขึ้นด้วย อย่าลืมไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในที่ทำงานบ้าง เช่น ไปเที่ยวกันหลังเลิกงาน หรือร่วมรับประทานอาหารพักกลางวันกับเพื่อน การไปพูดคุยทักทายในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานบ้างก็ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ได้ดี
4. รับรู้ถึงความหมายในการทำงาน (Meaning)
การมองหาความหมายและเป้าหมายในชีวิตเป็นแก่นหลักของการมีอยู่ของมนุษย์ โดยปกติแล้ว หากพูดถึงการทำงาน ความพยายามของเราที่ส่งผลต่อคนอื่นและองค์กรจะช่วยชุบชูใจของเราได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น การที่คนรอบข้างรวมไปถึงตัวเราเองรับรู้ว่างานของเรามีความหมายมากเพียงใดจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พูดคุยและทบทวนกับตัวเองให้บ่อยครั้งขึ้นว่าเราทำงานนี้เพื่ออะไรและมันมีความหมายมากแค่ไหน จัดกิจกรรมเล็ก ๆ ในแต่ละสัปดาห์ ในแต่ละเดือน หรือทุก ๆ ปี ในการแสดงการรับรู้ ขอบคุณ และให้รางวัลทุกคนในที่ทำงานสำหรับความตั้งใจในการทำงานและคุณค่าที่แต่ละคนมีและได้สร้างให้กับคนรอบตัวและองค์กร
5. อย่าลืมทำเป้าหมายให้สำเร็จ (Accomplishment)
ความสำเร็จมาจากการตั้งเป้าหมายและบรรลุมันได้ตามตั้งใจ มันช่วยทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ความสุขกับเรา ทำให้เราภูมิใจกับการมีอยู่ของเรา และช่วยเพิ่มกำลังใจในการทำงาน ลองตั้งเป้าหมายของงานแต่ละชิ้นให้มีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราให้ค่าและใช้จุดแข็งของตัวเองในการไปสู่เป้าหมาย สิ่งนี้จะสามารถช่วยให้เรารู้สึกสนุกกับงานแต่ละชิ้นมากขึ้นและทำให้เราทำงานได้ดีขึ้นด้วย
สรุป
การส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีตามโมเดล PERMA ของ Martin Seligman เน้นการพัฒนาชีวิตในด้านต่าง ๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การให้ความสำคัญและปรับปรุงแต่ละปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสร้างสมดุลและเพิ่มพูนความสุขในชีวิตได้อย่างยั่งยืน การเข้าใจและนำ PERMA มาใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานจะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีและสามารถเผชิญกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ