Negative Self-Talk ของแต่ละไทป์ MBTI

ในการ์ตูนหลาย ๆ เรื่องที่เราผ่านตามาในวัยเด็ก เชื่อว่าเราต้องคงเคยเห็นฉาก ๆ หนึ่งที่เป็นการพูดคุยโต้เถียงกันของเทวดาและปีศาจตัวน้อยบนบ่าซ้ายและขวาของตัวละคร เทวดาก็จะเชียร์ให้กำลังใจเราว่าทำไปเถอะ เราทำได้ เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ส่วนปีศาจก็จะคอยบอกแต่สิ่งที่ไม่ดี ทำให้เรากลัว ทำให้เราไม่กล้าทำสิ่งที่ถูกที่ควร

เจ้าเทวดาและปีศาจตัวน้อยนี้เปรียบได้กับ Self-Talk คือสิ่งที่เราพูดกับตัวเองในหัว ในใจ ซึ่งมีทั้ง Self-Talk แบบบวกและลบ Self-Talk แบบบวกช่วยให้กำลังใจ ให้พลังตัวเองสู่ความสำเร็จ ใคร ๆ ก็อยากได้อยากมี เจ้าตัวที่เป็นปัญหาจนต้องหยิบยกมาพูดกันมากมายก็คือเจ้า Negative Self-Talk

Negative Self-Talk คืออะไร?

Negative Self-Talk คือความคิดติดลบในหัวของตัวเอง หรือความคิดวิจารณ์ตัวเองอย่างไม่สร้างสรรค์ เช่น ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันไม่ฉลาดเอาซะเลย ยังไงฉันก็เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ เป็นคำพูดในหัวที่ไม่ใจดีกับตัวเองเลย ยิ่งพูดบ่อย ๆ ก็ส่งผลเสียต่อความมั่นใจและจิตใจในระยะยาว และส่งผลต่อพฤติกรรมอีกด้วย

หลายบทความพยายามนำเสนอวิธีกำจัด Negative Self-Talk บางคนทำตามแล้วได้ผล แต่ที่ไม่ได้ผลก็มีเยอะ อาจะเป็นเพราะคนเรามี Negative Self-Talk ที่ไม่เหมือนกัน คน 16 แบบตาม MBTI ก็มี Self-Talk ที่ต่างกันไป ซึ่งถ้าเราได้รู้ ได้ตระหนักเรื่องนี้ เราก็จะหาทางก้าวข้ามมันไปได้ตรงจุดยิ่งขึ้น

ลักษณะโดยธรรมชาติของ MBTI ทั้ง 16 บุคลิกภาพ

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอจัดกลุ่มบุคลิกภาพ MBTI โดยอิงจากตัวอักษรที่ 2 และ 3 ในโค้ดสี่ตัว คือคู่ของการรับรู้ข้อมูล (Sensing หรือ Intuition) และคู่ของการตัดสินใจ (Thinking) หรือ (Feeling) ตัวอักษรที่ 2 คือ S (Sensing) หรือ N (Intuition) และตัวอักษรที่ 3 คือ T (Thinking) หรือ F (Feeling) ด้วยวิธีการนี้ทำให้สามารถแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 4 กลุ่มหลักตามลักษณะของการรับรู้และการตัดสินใจดังนี้

1. Sensing และ Thinking (ST)

กลุ่มคนที่เน้นการรับรู้ข้อมูลจากสิ่งที่เป็นจริงและจับต้องได้ (Sensing) และตัดสินใจโดยอิงจากการวิเคราะห์และเหตุผล (Thinking) ได้แก่

  • ISTJ เน้นความเป็นระเบียบและการปฏิบัติ
  • ESTJ เน้นการบริการจัดการและการจัดสินใจ
  • ISTP มีความสามารถในการแก้ปัญหาและปรับตัว
  • ESTP ชอบความตื่นเต้นและการลงมือทำ

2. Sensing และ Feeling (SF)

กลุ่มคนที่เน้นการรับรู้ข้อมูลจากสิ่งที่เป็นจริงและจับต้องได้ (Sensing) และตัดสินใจโดยคำนึงถึงความรู้สึกและความสัมพันธ์ (Feeling) ได้แก่

  • ISFJ มุ่งมั่นในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้อื่น
  • ESFJ มีความรับผิดชอบและใส่ใจในความสัมพันธ์
  • ISFP มีความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์อ่อนไหว
  • ESFP ชอบความสนุกสนานและมีพลังงานสูง

3. Intuition และ Thinking (NT)

กลุ่มคนที่เน้นการรับรู้ข้อมูลจากสิ่งที่เป็นนามธรรมและความเป็นไปได้ (Intuition) และตัดสินใจโดยอิงจากการวิเคราะห์และเหตุผล (Thinking) ได้แก่

  • INTJ มีวิสัยทัศน์และมุ่งเน้นในกลยุทธ์
  • ENTJ มีความเป็นผู้นำและมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ
  • INTP มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และชอบการสำรวจความคิด
  • ENTP ชอบความท้าทายและมีความคิดสร้างสรรค์

4. Intuition และ Feeling (NF)

กลุ่มคนที่เน้นการรับรู้ข้อมูลจากสิ่งที่เป็นนามธรรมและความเป็นไปได้ (Intuition) และตัดสินใจโดยคำนึงถึงความรู้และความสัมพันธ์ (Feeling) ได้แก่

  • INFJ มีวิสัยทัศน์และลึกซึ้ง มุ่งนั่นในการช่วยเหลือผู้อื่น
  • ENFJ มีความเป็นผู้นำที่มีเสน่ห์และใส่ใจในการพัฒนาผู้อื่น
  • INFP มีอุดมคติและรักในความสงบและการสำรวจตนเอง
  • ENFP มีความกระตือรือร้นและรักการรสำรวจความคิดใหม่ ๆ

MBTI แต่ละบุคลิกภาพมี Negative Self-Talk ยังไงกันบ้าง?

1. Negative Self-Talk ของ Sensing และ Thinking (ST)

บุคคลในกลุ่มนี้มักจะมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมและการปฏิบัติได้จริง พวกเขาอาจมีความคาดหวังสูงต่อความสำเร็จและประสิทธิภาพ ทำให้ Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวข้องกับการวิจารณ์ตัวเองเรื่องความล้มเหลวหรือประสิทธิภาพที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

ISTJ, ESTJ, ISTP, ESTP

  • ฉันไม่เก่งพอที่จะทำให้สำเร็จ
  • ฉันควรทำได้ดีกว่านี้
  • ฉันไม่ควรทำผิดพลาดแบบนี้

2. Negative Self-Talk ของ Sensing และ Feeling (SF)

บุคคลในกลุ่มนี้มักจะใส่ใจในความสัมพันธ์และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นกังวลเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของผู้อื่นและการได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้ Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวข้องกับความรู้สึกไม่เพียงพอในเรื่องความสัมพันธ์หรือความสามารถในการดูแลผู้อื่น

ISFJ, ESFJ, ISFP, ESFP

  • ฉันไม่ดีพอสำหรับคนอื่น
  • ฉันทำให้คนอื่นผิดหวัง
  • ฉันไม่สามารถช่วยเหลือคนที่ฉันรักได้

3. Negative Self-Talk ของ Intuition และ Thinking (NT)

บุคคลในกลุ่มนี้มักจะมุ่งเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์เชิงลึก และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ พวกเขาอาจมีความคาดหวังสูงต่อการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ ทำให้ Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวข้องกับความสงสัยในความสามารถของตนในการวางแผนและนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ

INTJ, ENTJ, INTP, ENTP

  • ฉันคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป
  • ฉันไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
  • ความคิดของฉันมันไม่ได้ดีพอ

4. Negative Self-Talk ของ Intuition และ Feeling (NF)

บุคคลในกลุ่มนี้มักจะมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ความหมายที่ลึกซึ้ง และการเติบโตส่วนบุคคล พวกเขามีความสนใจในความรู้สึกและการแสดงออกของตัวเอง ทำให้ Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวข้องกับการสงสัยในคุณค่าของตนเองหรือความสามารถในการทำให้วิสัยทัศน์ของตนเป็นจริง

INFJ, ENFJ, INFP, ENFP

  • ฉันไม่พิเศษหรือไม่มีค่าอะไรเลย
  • ฉันไม่มีพลังพอที่จะทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง
  • ฉันไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้

ประโยชน์ของการเข้าใจ Negative Self-Talk

การเข้าใจรูปแบบของ Negative Self-Talk ที่มักเกิดขึ้นในแต่ละกลุ่มบุคลิกภาพสามารถช่วยเราได้ในเรื่อง

  • การพัฒนาตนเอง บุคคลสามารถระบุและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการคิดเชิงลบที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตและความสุขส่วนบุคคลได้
  • การสื่อสาร ผู้ที่ทำงานร่วมกันสามารถเข้าใจและสนับสนุนกันและกันในทางที่ช่วยลดความคิดเชิงลบและส่งเสริมความร่วมมือที่ดียิ่งขึ้น
  • การให้คำปรึกษา ผู้ให้คำปรึกษาหรือโค้ชสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การให้คำแนะนำเพื่อช่วยบุคคลในแต่ละกลุ่มรับมือกับ Negative Self-Talk อย่างมีประสิทธิภาพ

การเอาชนะหรือก้าวข้าม Negative Self-Talk ของแต่ละบุคลิกภาพ

เมื่อรู้จัก Negative Self-Talk ของแต่ละประเภทแล้ว คราวนี้ลองมาดูวิธีการก้าวข้าม Negative Self-Talk กันบ้าง

การเอาชนะหรือก้าวข้าม Negative Self-Talk ต้องเริ่มจากการระบุรูปแบบการคิดเชิงลบที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละกลุ่มใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อปรับเปลี่ยนการคิดเหล่านั้น นี่คือคำแนะนำในการจัดการกับ Negative Self-Talk ของทั้ง 4 กลุ่มบุคลิกภาพ

1. วิธีการเอาชนะหรือก้าวข้ามของ Sensing และ Thinking (ST): ISTJ, ESTJ, ISTP, ESTP

บุคคลในกลุ่ม ST มักจะประเมินตนเองในเชิงประสิทธิภาพและความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ดังนั้น Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวกับความล้มเหลวหรือความไม่เพียงพอในสิ่งที่ทำ

คำแนะนำสำหรับ Sensing และ Thinking (ST): ISTJ, ESTJ, ISTP, ESTP

  • เปลี่ยนวิธีการวิเคราะห์ ใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ของคุณเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างมีเหตุผล ถามตัวเองว่า “หลักฐานที่แท้จริงที่แสดงว่าฉันไม่เก่งพอคืออะไร”
  • ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ และยอมรับว่าการทำผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
  • ยอมรับความสำเร็จ สร้างนิสัยในการจดบันทึกความสำเร็จในแต่ละวัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
  • ขอคำติชมที่สร้างสรรค์ ขอความคิดเห็นจากคนรอบข้างเพื่อรับรู้ถึงจุดแข็งและพื้นที่ที่ต้องพัฒนาอย่างแท้จริง

2. วิธีการเอาชนะหรือก้าวข้ามของ Sensing และ Feeling (SF): ISFJ, ESFJ, ISFP, ESFP

บุคคลในกลุ่ม SF มักให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวกับการไม่เพียงพอในเรื่องการดูแลผู้อื่นหรือความสัมพันธ์

คำแนะนำสำหรับ Sensing และ Feeling (SF): ISFJ, ESFJ, ISFP, ESFP

  • ตั้งขอบเขตในการช่วยเหลือผู้อื่น ยอมรับว่าคุณไม่สามารถช่วยทุกคนได้เสมอไป และสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้คุณมีคุณค่าน้อยลง
  • ฝึกการยอมรับและให้อภัยตนเอง ยอมรับว่าไม่เป็นไรที่จะไม่สมบูรณ์แบบ ฝึกการพูดคุยกับตนเองด้วยความเห็นอกเห็นใจ
  • มองเห็นคุณค่าของตนเอง เน้นความสำคัญของคุณในชีวิตของผู้อื่นและยอมรับคำชมจากผู้อื่นอย่างแท้จริง
  • สนับสนุนการพัฒนาตนเอง ลงทุนเวลาในการพัฒนาทักษะหรือความสนใจของตนเอง เพื่อให้คุณรู้สึกมีคุณค่าและมั่นใจมากขึ้น

3. วิธีการเอาชนะหรือก้าวข้ามของ Intuition และ Thinking (NT): INTJ, ENTJ, INTP, ENTP

บุคคลในกลุ่ม NT มักจะมุ่งเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ และการบรรลุผลสำเร็จ Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวกับความสงสัยในความสามารถของตนในการวางแผนหรือการคิดเชิงกลยุทธ์

คำแนะนำสำหรับ Intuition และ Thinking (NT): INTJ, ENTJ, INTP, ENTP

  • ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา เมื่อเผชิญกับการคิดเชิงลบ ให้ใช้ความสามารถในการคิดวิเคราะห์เพื่อหาวิธีการใหม่ ๆ ในการมองหรือแก้ไขปัญหา
  • เน้นการพัฒนาตนเอง ใช้เป้าหมายในการพัฒนาตนเองเพื่อให้คุณรู้สึกมีความก้าวหน้าและพัฒนาทักษะของคุณ
  • สร้างเครือข่ายสนับสนุน หาคนที่มีความคิดคล้ายคลึงกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังมุมมองที่สร้างสรรค์
  • ตั้งคำถามกับ Negative Self-Talk ใช้ตรรกะเพื่อประเมินความจริงของ Negative Self-Talk เช่น มีหลักฐานจริง ๆ ที่บอกว่าฉันไม่สามารถทำได้หรือไม่

4. วิธีการเอาชนะหรือก้าวข้ามของ Intuition และ Feeling (NF): INFJ, ENFJ, INFP, ENFP

บุคคลในกลุ่ม NF มักจะใส่ใจในความสัมพันธ์และความหมายลึกซึ้ง Negative Self-Talk ของพวกเขามักเกี่ยวกับการสงสัยในคุณค่าของตนเองหรือความสามารถในการทำให้วิสัยทัศน์ของจนเป็นจริง

คำแนะนำสำหรับ Intuition และ Feeling (NF): INFJ, ENFJ, INFP, ENFP

  • ค้นหาและยึดมั่นในคุณค่า ระบุคุณค่าที่แท้จริงของคุณและใช้มันเป็นฐานในการตัดสินใจและประเมินตนเอง
  • ฝึกการให้ความเห็นอกเห็นใจตนเอง พูดคุยกับตนเองอย่างที่คุณจะพูดกับเพื่อนสนิทหรือคนที่คุณรัก
  • เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของคุณ ยอมรับว่าความฝันและวิสัยทัศน์ของคุณมีค่า แม้จะไม่เห็นผลในทันที
  • สร้างเครือข่ายสนับสนุนอารมณ์ หาคนที่เข้าใจและสนับสนุนวิสัยทัศน์และความฝันของคุณ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีแนวทางทั่วไปในการก้าวข้าม Negative Self-Talk ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ในทุกกลุ่มเช่น

  • ฝึกสติ (Mindfulness) ฝึกการตระหนักรู้ถึงความคิดและความรู้สึกในปัจจุบันโดยไม่ตัดสินใจ เพื่อที่จะสามารถระบุ Negative Self-Talk ได้เร็วขึ้น
  • เขียนบันทึก (Journaling) จดบันทึกความคิดเชิงลบและพิจารณาว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ จากนั้นหาวิธีที่จะเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น
  • การสร้างคำพูดเชิงบวก (Positive Affirmations) สร้างคำพูดหรือประโยคเชิงบวกที่คุณสามารถใช้แทน Negative Self-Talk เมื่อมันเกิดขึ้น
  • การให้คำปรึกษาและการบำบัด (Counseling and Therapy) หาก Negative Self-Talk เป็นปัญหาที่รุนแรง การพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอาจเป็นทางเลือกที่ดี

สรุป

ในระบบ MBTI Negative Self-Talk สามารถทำให้เราประเมินค่าตัวเองต่ำเกินไป ส่งผลให้รู้สึกหมดหวังและไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง การจัดการกับ Negative Self-Talk ต้องการเวลาและการฝึกฝน ต้องเริ่มจากการตระหนักถึงความคิดเหล่านั้น การตั้งคำถามกับความจริงของมัน และการพยายามกลับไปใช้ฟังก์ชั่นที่เราถนัดเพื่อฟื้นฟูความมั่นคงและความมั่นใจในตนเอง

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือโทร 02 258 6930-35