เคล็ดลับดูแลความเครียดด้วยการเข้าใจจุดแข็ง Part 1 (Extraverted Functions)
เมื่อพูดถึง Wellbeing หรือ “ความเป็นอยู่ที่ดี” คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงคุณภาพในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการได้กินดี อยู่ดี ได้นอนพอ ได้ออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ มีเวลาหยุดพักผ่อนไปเที่ยวกับครอบครัว หรือ มีงานดีๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และดูแลค่าใช้จ่ายได้อย่างครอบคลุม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว Wellbeing เป็นแนวคิดที่ครอบคลุมมากกว่าแค่คุณภาพในการใช้ชีวิตเชิงกายภาพ เพราะมันรวมไปถึงสุขภาพใจ กล่าวคือ การรู้สึกอิ่มเอมใจ มั่นคงภายในตัวเอง และมีพลังใจมากพอที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
ซึ่งหากมองจากมุมมองจิตวิทยารูปแบบบุคลิกภาพ (Personality Type) และเครื่องมือ MBTI® สุขภาวะทางใจนี้เชื่อมโยงกับการได้ใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องไปกับธรรมชาติความเป็นตัวเอง
และเนื่องจากเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน งานจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีของเรา โดยเฉพาะในด้านสุขภาพใจ หากเราได้ทำงานที่สอดคล้องไปกับความเป็นตัวเองและได้ใช้จุดแข็งตามธรรมชาติ สุขภาวะทางใจที่ดีก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้งานในอุดมคติ และแม้แต่กับงานในอุดมคติ หน้าที่รับผิดชอบบางอย่างภายใต้ขอบเขตของงานนั้นๆ ก็ใช่ว่าจะส่งเสริมสุขภาพใจเสมอไป การเข้าใจกลไกภายในของตัวเองแทนที่จะเฟ้นหาอุดมคติจึงเป็นพื้นฐานที่เเท้จริงของการดูแลตัวเอง
จุดแข็งของคนแต่ละไทป์
จุดแข็งตามธรรมชาติของคนแต่ละไทป์มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการทางความคิด (Cognitive Process) หรือฟังก์ชันที่เราถนัดใช้มากที่สุด (Dominant Function) การได้ใช้ฟังก์ชันของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตจะทำให้
- รู้สึกมีพลัง มีแรงบันดาลใจ มีชีวิตชีวา
- รู้สึกว่าเราเป็นคนมีความสามารถ เรียนรู้ได้ไว พัฒนาตัวเองได้ดี เป็นคนมีค่า
- รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีเส้นทางการเติบโตในแบบของตัวเอง
- ช่วยลดความเครียดจากความขัดแย้งภายในใจ ระหว่างการเลือกเป็นตัวเอง กับ การเป็นในสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เราเป็น
และในทางตรงกันข้าม สถานการณ์ที่ไม่อนุญาตให้เราได้ใช้จุดแข็ง หรือ ต้องการให้เราใช้ฟังก์ชันที่เราไม่ถนัดเป็นส่วนใหญ่จะทำให้รู้สึกหมดพลังได้ง่าย ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้รับการยอมรับ บางครั้งทำให้รู้สึกหงุดหงิด หรืออาจทำให้รู้สึกว่าถูกละเลย (จากการที่คนอื่นไม่ให้ความสำคัญในสิ่งที่เราให้ค่า
กระบวนการทางความคิด หรือ ฟังก์ชันทั้ง 8
คนแต่ละไทป์มีฟังก์ชันที่ถนัดใช้ตามธรรมชาติแตกต่างกันไป เราสามารถแบ่งประเภทของฟังก์ชันได้เป็น 8 แบบตามทฤษฎีต้นฉบับของคาร์ล จุง (Carl Jung) กล่าวคือ +
- Extraverted Sensing (Se) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ESTP และ ESFP
- Extraverted iNtuition (Ne) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENTP และ ENFP
- Extraverted Thinking (Te) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENTJ และ ESTJ
- Extraverted Feeling (Fe) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENFJ และ ESFJ
- Introverted Sensing (Si) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ISTJ และ ISFJ
- Introverted iNtuition (Ni) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ INTJ และ INFJ
- Introverted Thinking (Ti) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ INTP และ ISTP
- Introverted Feeling (Fi) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ INFP และ ISFP
- Introverted Sensing (Si) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ISTJ และ ISFJ
- Introverted iNtuition (Ni) เป็นฟังก์ชันหลักของคนไทป์ INTJ และ INFJ
ฟังก์ชันทั้ง 8 นี้เปรียบเสมือนแว่นที่เราสวมใส่เพื่อมองโลก การที่รู้ว่าเราใส่แว่นแบบไหน จะช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมกิจกรรม งาน พฤติกรรม หรือสภาพแวดล้อมบางอย่างทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า และทำไมบางอย่างถึงเติมพลังให้เราได้อย่างน่าประหลาดใจ
ในบทความนี้ เราจะพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับจุดแข็งของคนแต่ละไทป์ตามฟังก์ชันที่พวกเขาถนัดใช้มากที่สุด (Dominant Function) โดยโฟกัสไปที่กลุ่มคนประเภท Extravert ทั้ง 8 ไทป์ก่อน รวมไปถึง จุดอ่อนที่มาจากจุดแข็ง (มักมาจากการเป็นตัวเองมากไปหรือละเลยความสำคัญของฟังก์ชันตรงข้าม) แหล่งพลังความกระตือรือร้นในที่ทำงาน (ซึ่งสอดคล้องไปกับการได้ใช้จุดแข็งตามธรรมชาติ) และ ตัวกระตุ้นความเครียดในที่ทำงาน (จุดอ่อนตามธรรมชาติ ซึ่งมักมาจากการไม่ใช้จุดแข็งและต้องใช้ฟังก์ชันที่ไม่ถนัด)
Dominant Function: Extraverted Sensing (Se)
ฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ESTP และ ESFP
โดยธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับข้อมูลจากประสาทสัมผัสและประสบการณ์ตรง
จุดแข็ง
- เข้าประเด็นสำคัญและลงมือแก้ปัญหาทันที
- หาวิธีการที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุดในการทำสิ่งต่างๆ
- มองโลกในแง่ดี ไม่จมอยู่ในปัญหาที่จัดการไม่ได้
- ยอมรับคนอื่นในแบบที่เขาเป็น และมองคน/ สถานการณ์จากภายนอก
- ชอบประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและสิ่งสวยงาม
- คนรอบตัวมักรู้สึกชื่นชมหรืออิจฉาที่พวกเขาสามารถมีความสุขได้ในแต่ละวันโดยไม่แคร์อะไร
จุดอ่อนที่มาจากจุดแข็ง
- เวลาต้องการหรือไล่คว้าความสุขทางประสาทสัมผัสมากๆ อาจดูเป็นคนตื้นเขิน
- มักมองข้ามความหมายแฝง สมมติฐาน ประเพณีปฏิบัติในอดีต และความเป็นไปได้ในอนาคต
แหล่งพลังความกระตือรือร้นในที่ทำงาน
- อิสระในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น
- การได้ใช้ประโยชน์จากความจำที่เฉพาะเจาะจงของตัวเอง
- การมีทางเลือกว่าจะทำงานให้เสร็จอย่างไร
- การได้ทำงานที่หลากหลายและยืดหยุ่น และ ได้ใช้ประโยชน์จากเวลา
- โครงสร้าง เป้าหมาย และความรับผิดชอบที่ชัดเจน
- การทำงานเป็นทีม
ตัวกระตุ้นความเครียดในที่ทำงาน
- กำหนดเวลา
- การต้องทำตามกิจวัตรที่เข้มงวดด้วยเวลาเพียงเล็กน้อย
- การวางแผนระยะยาว
- การไม่สามารถควบคุมเงื่อนไขต่างๆ ได้
- คำสั่งและคำแนะนำที่ไม่ชัดเจน
- ข้อตกลงที่ไม่ยืดหยุ่นให้กับเงื่อนไขฉุกเฉิน
ตัวกระตุ้นความเครียดอย่างรุนแรง
(มักทำให้รู้สึกในด้านลบได้ฉับพลัน หรือ นำไปสู่การขาดสติ)
- การโฟกัสไปที่อนาคตมากเกินไป
- การไม่มี/ ไม่เปิดรับทางเลือก
- กิจกรรมที่เป็นระเบียบแบบแผนมากเกินไป
Dominant Function: Extraverted iNtuition (Ne)
ฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENTP และ ENFP
โดยธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับไอเดียใหม่ๆ และความเป็นไปได้
จุดแข็ง
- ใช้ชีวิตด้วยความไว้วางใจและมองโลกในแง่ดี
- กล้าเสี่ยงในสิ่งที่คนอื่นอาจหลีกเลี่ยง
- มองหาความท้าทายใหม่ๆ ที่น่าดึงดูดใจกว่าสิ่งที่รู้อยู่แล้วและมีหลักฐานรองรับ
- ให้ค่ากับสิ่งที่เป็นไปได้ มากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่จริงตอนนี้
- มีสัญชาตญาณประหลาดในเรื่องเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
- ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เพิ่งได้รับในการกระตุ้นความคิดของตัวเอง
จุดอ่อนที่มาจากจุดแข็ง
- ละเลยข้อจำกัดของพลังงานและเวลาทั้งของตัวเองและคนอื่น
- รู้สึกว่าข้อเท็จจริง รายละเอียด และกิจกรรมที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นเรื่องน่าเบื่อ
แหล่งพลังความกระตือรือร้นในที่ทำงาน
- ความหลากหลายและความท้าทาย
- การสามารถทำงานของตัวเองได้อย่างอิสระ
- การที่คนอื่นเคารพความเห็นและให้ค่ากับความสามารถและทักษะพิเศษที่มี
- อิสระในการแก้ปัญหาแบบเน้นผลลัพธ์และความแปลกใหม่
- การสามารถกระจายงานให้คนอื่นช่วยแก้ปัญหาได้
- เวลาว่างที่มากพอ
ตัวกระตุ้นความเครียดในที่ทำงาน
- การต้องหาข้อยุติเร็วเกินไป
- การไม่ได้รับความเคารพ การถูกสงสัยในความสามารถ
- รายละเอียดที่มากเกินไป
- การควบคุมดูแลที่ใกล้ชิดเกินไป การสื่อสารให้เห็นว่าไม่ไว้ใจและสงสัยว่าทำได้หรือไม่
- สิ่งเร้าภายนอกที่น้อยเกินไป โปรเจกต์ที่ไม่น่าตื่นเต้น
- กฎต่างๆ ที่ขัดขวางกระบวนการสร้างสรรค์และดูดพลังงาน
ตัวกระตุ้นความเครียดอย่างรุนแรง
(มักทำให้รู้สึกในด้านลบได้ฉับพลัน หรือ นำไปสู่การขาดสติ)
- ความเหน็ดเหนื่อยทางร่างกาย
- การโฟกัสไปที่ข้อเท็จจริง
- การละเมิดค่านิยมและหลักการ
Dominant Function: Extraverted Thinking (Te)
ฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENTJ และ ESTJ
โดยธรรมชาติ ต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการควบคุมและชอบตัดสินใจ
จุดแข็ง
- ให้ความสำคัญกับความสามารถ และความมีประสิทธิภาพ
- รู้สึกสบายๆ กับบทบาทผู้นำ
- ต้องการให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามหลักเหตุผล
- ให้ความสำคัญกับการได้รับความเคารพมากกว่าการเป็นที่ชื่นชอบ
- โฟกัสที่ความจริง ความถูกต้อง มาตรฐาน และผลลัพธ์
จุดอ่อนที่มาจากจุดแข็ง
- มีแนวโน้มที่จะวิพากษ์วิจารณ์ มาตรฐานสูง
- ต้องการให้คนอื่นรับรู้ถึงความสำเร็จของตัวเอง
แหล่งพลังความกระตือรือร้นในที่ทำงาน
- งาน
- โอกาสในการเป็นผู้นำและออกคำสั่งคนอื่น
- การคาดเดาสถานการณ์ได้
- การทำงานหรือโปรเจกต์สำเร็จ
- พฤติกรรมและกระบวนการที่เป็นไปตามหลักเหตุผล
- โอกาสในการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นระเบียบและชัดเจน
ตัวกระตุ้นความเครียดในที่ทำงาน
- การคุมเวลาและงานที่รับผิดชอบไม่ได้
- การเปลี่ยนขั้นตอนและเกณฑ์วัดผลที่คลุมเครือ
- สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นระเบียบ
- การถูกขัดจังหวะบ่อยๆ
- พฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผล
- การไม่มีความสามารถ (ทั้งของตนเองและผู้อื่น)
ตัวกระตุ้นความเครียดอย่างรุนแรง
(มักทำให้รู้สึกในด้านลบได้ฉับพลัน หรือ นำไปสู่การขาดสติ)
- การที่คนอื่นละเลยสิ่งที่ให้ค่า
- การแสดงอารมณ์รุนแรง
- ความรู้สึกผิดที่ตัวเองก้าวร้าวหรือเข้มงวดเกินไป
Dominant Function: Extraverted Feeling (Fe)
ฟังก์ชันหลักของคนไทป์ ENFJ และ ESFJ
โดยธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับการรักษาความรู้สึกดีๆ และความปรองดองในความสัมพันธ์
จุดแข็ง
- แสดงความปรารถนาดีและความกระตือรือร้น
- มองชีวิตในแง่ดีเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องศักยภาพของมนุษย์
- โฟกัสในสิ่งที่ดี ที่ความสามัคคี และการให้กำลังใจ
- ให้ความสนใจในข้อสรุปเชิงลบหรือในแง่ร้ายเพียงเล็กน้อย
- ระวังการทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น
- พยายามเคารพและยอมรับคนอื่นแบบไม่มีเงื่อนไข
จุดอ่อนที่มาจากจุดแข็ง
- ในบางครั้ง อาจถูกเข้าใจผิดว่าพึ่งพิงคนอื่นหรือทำตามความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป
- รับรู้ว่าต้องให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เชิงตรรกะและเหตุผลแต่มองข้ามสิ่งเหล่านี้เวลาตัดสินใจเป็นส่วนใหญ่
แหล่งพลังความกระตือรือร้นในที่ทำงาน
- การได้ควบคุมจำนวนงานและตารางงาน
- สภาพแวดล้อมที่เน้นการสนับสนุนกันและการเข้าสังคม
- การที่คนอื่นเห็นค่าในสิ่งที่ทำ
- การรู้สึกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง
- ความซื่อสัตย์และการสื่อสารอย่างเปิดเผย
- ความจริงใจและการแสดงความชื่นชมบ่อยๆ
ตัวกระตุ้นความเครียดในที่ทำงาน
- การทำงานกับคนที่ไม่ให้ความร่วมมือและชอบทำลายชื่อเสียงคนอื่น
- ความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันและเน้นการเผชิญหน้า
- การต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
- การตัดสินคนอื่นหรือความสัมพันธ์ที่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก
- การไม่มีเวลามากพอที่จะทำงานให้ออกมาดี
- งานที่ละเมิดค่านิยมและจรรยาบรรณส่วนบุคคล
ตัวกระตุ้นความเครียดอย่างรุนแรง
(มักทำให้รู้สึกในด้านลบได้ฉับพลัน หรือ นำไปสู่การขาดสติ)
- การไม่ไว้ใจกัน
- การถูกกดดันให้ทำตามมาตรฐานที่ไม่เห็นด้วย
- ความขัดแย้งในความสัมพันธ์